ยิ่งฟังยิ่งน้ำตาไหล! เผยนาทีชีวิต เสือดำตะเกียกตะกาย หนีเอาชีวิตรอด ก่อนถูกคนใจร้าย กรีดซ้ำถลกหนังทั้งเป็น แถมต้มกินสดๆ(คลิป)

 สืบเนื่องมาจากกรณี เจ้าหน้าที่ เข้าจับ เปรมชัย กรรณสูต ประธานอิตาเลียนไทย ยักษ์ใหญ่ก่อสร้าง พร้อมพวกอีก 3 คน ตั้งแคมป์กลางป่าทุ่งใหญ่ ก่อ...

 สืบเนื่องมาจากกรณี เจ้าหน้าที่ เข้าจับ เปรมชัย กรรณสูต ประธานอิตาเลียนไทย ยักษ์ใหญ่ก่อสร้าง พร้อมพวกอีก 3 คน ตั้งแคมป์กลางป่าทุ่งใหญ่ ก่อนพบซากเสือดำ เก้ง ไก่ฟ้า ปืนไรเฟิลติดกล้อง ลูกซอง กระสุนเพียบ สอบสวนปฏิเสธ ไม่ได้ล่าสัตว์ ปืนก็ไม่ใช่ของตนเอง ดำเนินคดี 9 ข้อหา ส่งฝากขังศาล ก่อนได้ประกันตัว กรมอุทยานฯ แถลงชี้แจงวุ่น โต้เป็นแขกวีไอพี ยอมรับเปรมชัยขอเข้าพื้นที่ศึกษาธรรมชาติ แต่กลับไปตั้งแคมป์ในจุดหวงห้าม

ล่าสุด “รายการต่างคนต่างคิด”ได้เผยบทสัมภาษณ์ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฎิบัติการพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่ากรณีนี้ผู้ต้องหาไม่รอดแน่เพราะหลักฐานแน่หนาสุดๆ ถึงแม้ว่า นาย เปรมชัย ปฏิเสธว่าไม่ใช่คนยิง ก็ยังโดนข้อหาร่วมกันฆ่าเสืออยู่ดี

จากการสันนิษฐานเบื้องต้น คาดว่า ผู้ที่มีความชำนาญในพื้นที่ คือ นายธานี กับ นายยงค์ เนื่องจาก เป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นไปได้ว่ามีความชำนาญในพื้นที่ป่าดี และอาจเคยเห็นเสือดำตัวนี้มาก่อน
ขอบคุณภาพจาก amarin tv นอกจากนี้ ทางกลุ่มผู้ต้องหาได้มีการตระเตรียมอาวุธปืนยาวไรเฟิล ขนาด .22 มม. ติดลำกล้องเข้าไป ส่อเจตนาชัดเจนว่าจะเข้าไปล่าสัตว์ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้จดหมายเลขทะเบียนอาวุธปืน พร้อมกับวัดขนาดความยาวปืน ไปแจ้งความเอาไว้แล้ว ก่อนส่งตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ แม้ว่า นายเปรมชัย จะให้การปฎิเสธว่าปืนไม่ใช่ของตัวเอง แต่ภายหลังการตรวจแล้วพบว่า ทะเบียนเป็นชื่อของ “นายเปรมชัย” จริง ส่วนซากเสือดำ ซึ่งถูกถลกหนัง ตัดส่วนต่างๆ ออกเป็นชิ้น เมื่อนำมาประกอบเป็นตัว พบว่าเนื้อสะโพกหายไป เมื่อสอบถามได้รับคำตอบว่า อยู่ในหม้อต้มซุปพร้อมกับส่วนหาง ทั้งนี้ระหว่างเก็บซากพิสูจน์หลักฐาน นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุสามารถ

loading...

ชำแหละซากสัตว์ได้แบบมืออาชีพ มีการแยกเนื้อ กะโหลกเสือ ไก่ฟ้าหลังเทา เนื้อเก้ง อย่างชำนาญ ทั้งนี้ ภายหลัง กองพิสูจน์หลักฐาน ได้จำลองการยิงแล้วเห็นว่ามี 2 มุมในการยิง แสดงว่ามีการยิง 2 ครั้ง จึงเชื่อได้ว่า ผู้ก่อเหตุใช้ปืนลูกปรายยิง ก่อนจะยิงซ้ำอีกครั้งหนึ่งจึงเสียชีวิต ซึ่งน่าจะมีคนยิง 2 คน ส่วนคลิปเสียง เป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่พูดตีสนิทกับผู้ก่อเหตุ เพื่อหลอกถามว่า ใครเป็นคนยิง? โดยเสียง 1 ในนั้น คือ นายยงค์ คนขับรถของ นายเปรมชัย มีการพูดเรื่องผลประโยชน์ ขณะที่นายเปรมชัย เมื่อถูกจับกุมกลับนั่งเฉย ไม่พูดจาอะไร แต่จากหลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมดขณะนี้ เชื่อมั่นว่า จะสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฎิบัติการพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ หลังจากจบรายการต่างคน ต่างคิด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฎิบัติการพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้พูดถึงประเด็นกระสุนที่มีการใช้ยิงเสือดำว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ พบว่ากระสุนที่ใช้ยิงเสือดำนั้น บริเวณตัวเสือ เป็นลูกปรายจากการใช้ปืนลูกซอง เพราะลักษณะกระสุนเป็นลูกละเอียดมาก ประมาณ 5 เม็ด แต่อีกจุดหนึ่งบริเวณศีรษะที่รูใหญ่กว่าลูกปราย

ปืนไรเฟิล ติดลำกล้อง ขนาด .22 มม. เบื้องต้น เป็นลักษณะของปืน .22 มม. ตนขอสันนิษฐานว่า น่าจะมีการยิงถึง 2 ครั้ง และอาจจะยิง 2 คนก็ได้ เพราะอาจจะเป็นลักษณะยิงครั้งเดียวแต่ไม่ตาย จึงวิ่งตามไปยิงซ้ำอีกครั้ง โดยจากประสบการณ์ที่จะต้องมีการยิงถึง 2 ครั้ง เนื่องจากสัตว์ป่า โดยเฉพาะเสือ ถ้าไม่ยิงโดนตรงจุดสำคัญจะไม่ตายทันที



นายชัยวัฒน์ บอกอีกว่า สำหรับความเชี่ยวชาญในการยิงปืนตนคิดว่า เป็นมืออาชีพแน่นอน เนื่องจากตัวปืนได้ติดกล้องไว้อยู่แล้ว รวมถึงสภาพของเสือดำที่ได้ชำแหละออกมาอยู่ในสภาพดี ตนคิดว่าการยิงเสือดำครั้งนี้ ก็คงจะเป็นเกมส์ล่าสัตว์ เพื่อความสนุกสนาน และนำมากิน ยิ่งได้สัตว์แปลกยิ่งมีความสนุกสนานมากขึ้น โดยเฉพาะเสือดำ ที่ไม่มีใครกินอยู่แล้วด้วย

โดยทั่วไปแล้ว พรานป่าส่วนใหญ่ยิงในเฉพาะตรงจุดสำคัญ หากต้องการจะเอาหนังหรือขน จะเล็งให้หนังมีการเสียหายน้อยที่สุด เพราะหากมีการชำแหละแล้วเสียเล็กน้อย สามารถที่จะซ่อมแซมได้ โดยเฉพาะการยิงที่ไหล่หน้า หรือบริเวณหูขวา ก็ถูกอวัยวะข้างในครั้งเดียวก็ตาย หรือบางครั้งจะมีการวางยา แต่ถ้าวางยาจะเอาเนื้อมากินไม่ได้ แต่อาจจะทำเพื่อสร้างความปั่นป่วนของเจ้าหน้าที่ เพราะเคยมีลักษณะนี้เช่นกัน

คลิป
จากเรื่องราวนี้ นอกจากจะสะเทือนใจคนรักสัตว์แล้ว ยังสะเทือนใจสามัญสำนึกความเป็นคน มีสัตว์มากมายบนโลกที่ถูกเลี้ยงมาเพื่อเป็นอาหาร แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่เลือกกิน แต่ไปเลือกสังหารสัตว์ที่นับวันก็จะหายไปจากโลกนี้ทุกที

ขอขอบคุณ amarintv

Cr :https://www.siamnews.com/view-13908.html

You Might Also Like

0 comments